หลายท่านคงสงสัยว่ากล้องวงจรปิดที่ติดตามสถานที่ต่างๆในปัจจุบันนี้มันแตกต่างกันด้วยหรอ จริงครับกล้องวงจรปิดที่ติดกันปัจจุบันนี้แตกต่างกันที่ลักษณะตัวกล้องและวงจรรวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ต่อกล้อง ผมถึงขอนำเสนอความรู้จริงเรื่องกล้องวงจรปิดแก่ทุกๆท่านที่สนใจจะนำไปติดตั้งหรือใช้งานจริงครับ ในตอนแรกนี้ผมจะขออธิบายภาพรวมพื้นฐานของอุปกรณ์ระบบกล้องวงจรปิดและความแตกต่างของกล้องวงจรปิดในปัจจุบันนี้นะครับ
กล้องวงจรปิดในปัจจุบันนี้แบ่งเป็น 2 ประเภทนะครับคือ กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อกและกล้องวงจรปิดแบบเน็ตเวิร์ค
1. กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อก จะมีส่วนประกอบในการเชื่อมต่อจากกล้องไปตัวเก็บข้อมูลดังนี้
1.1 กล้องวงจรปิด ซึ่งจะมีตัวกล้องกับเลนส์ อาจแยกส่วนกันมาหรือมาพร้อมกันก็ได้ครับ ซึ่งทั้งกล้องแบบอนาล็อคและแบบเน็ตเวิร์คจะเหมือนกันในส่วนนี้ แต่ส่วนที่จะแตกต่างกันคือช่องสัญญาณออกมาจากตัวกล้องบริเวณท้ายกล้องครับ กล้องอนาล็อกนั้นสัญญาณที่จะออกมาแบบอนาล็อกโดยหัวสัญญาณที่ออกมาจะเป็นแบบ BNC หรือ RCA แล้วแต่ผู้ผลิตกล้อง โดยสัญญาณที่ออกมานี้จะสัมพันธ์กับสายสัญญาณและอุปกรณ์บันทึกที่จะกล่าวต่อไปครับ
1.2 สายสัญญาณ จะเป็นแบบสายโคแอคเชียล (Coaxial Cable) ซึงเป็นสายสัญญาณหลักที่นิยมใช้สำหรับกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะอาจมีสายประเภทอื่นบ้างแต่ไม่ใช่สำหรับกล้องวงจรปิด สายสัญญาณนี้จะเป็นสายประเภทเดียวกับสายที่เชื่อมต่อเสาสัญญาณโทรทัศน์ที่ติดตามหลังเครื่องทีวีทั่วไปแต่อาจแตกต่างกันที่คุณภาพของตัวนำสัญญาณและฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวนหรือชิล(Shield)ที่สาย โดยสายสัญญาณนี้จะมีหลายขนาดความใหญ่ของสายซึ่งจะเรียก RG ซึ่งสายยิ่งใหญ่จะยิ่งส่งระยะได้ไกลแต่ค่าสายก็แพง โดยเรียงจากเล็กไปใหญ่ได้ดังนี้ RG59, RG6, RG11 โดยมีระยะทางสูงสุดที่ยังคงคุณภาพของภาพที่ส่งมาตามสายได้ดีดังนี้ RG59 -> 100m, RG6 -> 300m, RG11 -> 500m ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางของผู้ใช้งานจริง แต่สายที่นิยมใช้กันมากในวงการกล้องวงจรปิดคือสาย RG6 โดยควรมีฉนวนป้องกันสัญญาณหรือชิล(Shield)ยิ่งเยอะยิ่งดี (ค่า Shield จะบอกเป็น % เช่น 60% ,90% ,95% เป็นต้น) เพื่อป้องกันการรบกวนจากสัญญาณภายนอกที่สายผ่านได้ จึงทำให้ภาพที่ส่งมาบันทึกมีคุณภาพที่ดี เรื่องสายสัญญาณนั้นยังมีสายอีกประเภทหนึ่งที่ช่วยเพิ่มระยะทางในการส่งภาพปัจจุบันซึ่งจะกล่าวในตอนต่อๆไปคราวหลังนะครับ
1.3 เครื่องบันทึกภาพ (DVR) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลภาพของกล้องวงจรปิดแบบอนาล็อกรวมทั้งแสดงผลภาพ ณ ปัจจุบันและภาพที่บันทึกทางหน้าจอได้ โดยจะมีช่องสัญญาณเข้าแบบ BNC เป็นหลัก โดยขนาดของเครื่องบันทึกนั้นจะมีหลายขนาดตามจำนวนกล้องที่จะนำมาบันทึก ซึ่งทั่วไปจะมีแบบ 4กล้อง, 8กล้อง และ 16กล้อง อาจมีแบบ 32กล้องบ้างในบางยี่ห้อ ซึงจะเก็บข้อมูลที่บันทึกได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับขนาดความจุของข้อมูลในตัวเครื่อง DVR (Harddisk เหมือนกับที่ใส่ในเครื่องคอมพิวเตอร์แต่อาจพิเศษกว่าบ้างถ้าเป็นแบบที่ใช้สำหรับกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ) และการตั้งค่าความละเอียดของภาพ (ยิ่งภาพใหญ่ยิ่งทำให้เก็บข้อมูลได้น้อยแต่เห็นความเคลื่อนไหวต่างๆของภาพได้ชัดเจนขึ้น) ส่วนสัญญาณขาออกปัจจุบันนี้จะมีหลายรูปแบบ เช่นแบบ BNC, VGA, HDMI แต่ที่นิยมใช้กันทั่วไปก็จะเป็นแบบ VGA เพราะใช้สายประเภทเดียวกับจอคอมพิวเตอร์ จึงสามารถนำจอคอมพิวเตอร์เก่าที่ผู้ใช้งานไม่ได้ใช้งานแล้วมาแทนได้จึงเป็นการประหยัดงบประมาณให้ผู้ใช้งานอีกทางหนึ่งด้วย
หมายเหตุ เครื่องหลายรุ่นมีหัวต่อ RJ45 ที่ท้ายเครื่องทำให้ต่อดูภาพผ่านระบบเน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์ โดยดูจากกคอมพิวเตอร์ปลายทางได้ แต่เครื่อง DVR นี้ต้องมีเบอร์ IP Network ที่อยู่ในระบบแล้วเท่านั้นจึงจะดูภาพได้ จึงอาจไม่จำเป็นต้องมีจอภาพที่เครื่อง DVR ได้ถ้าผู้ใช้งานใช้คอมพิวเตอร์ปลายทางดูภาพแทน
1.4 จอแสดงผลภาพ ปัจจุบันนี้จะนิยมใช้จอแบบ LCD หรือ LCD TV เพราะทั้งเรื่องสายสัญญาณที่ต่อระหว่างจอภาพกับเครื่องบันทึกภาพนั้นสามารถใช้งานร่วมกันได้ดีดังที่กล่าวข้างบน และคุณสมบัติของการแสดงผลและคุณภาพของเครื่องที่ดีทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้อย่างชัดเจน
2. กล้องวงจรปิดแบบเน็ตเวิร์ค จะมีส่วนประกอบในการเชื่อมต่อจากกล้องไปตัวเก็บข้อมูลดังนี้
2.1 กล้องวงจรปิดแบบเน็ตเวิร์คก็จะมีตัวกล้องกับเลนส์ อาจแยกส่วนกันมาหรือมาพร้อมกันก็ได้ครับซึ่งเหมือนกันกับกล้องแบบอนาล็อก แต่จะแตกต่างกันคือช่องสัญญาณออกมาจากตัวกล้องบริเวณท้ายกล้องครับ กล้องแบบเน็ตเวิร์คจะมีหัวสัญญาณที่ออกมาจะเป็นแบบ RJ45 ซึ่งใช้กับโครงข่ายเน็ตเวิร์คหรือถ้าเป็นโครงข่ายขนาดใหญ่ก็คือผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้เลยครับ โดยแต่ละตัวกล้องต้องมี IP Network ที่เป็นวงเดียวกับเครื่องบันทึกปลายทาง เพื่อให้เครื่องปลายทางรับสัญญาณและเก็บข้อมูลกล้องผ่านระบบเน็ตเวิร์คได้
2.2 สายสัญญาณ จะเป็นแบบสายยูทีพี (UTP Cable) หรือที่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วไปอาจรู้จักดีอยู่แล้วคือสายแลน (LAN) ซึงมีประเภทของสายที่เรียกว่า CAT โดยถ้าใช้กลับกล้องวงจรปิดแบบเน็ตเวิร์คปัจจุบันนี้จะนิยมใช้ CAT5E ส่วนในอนาคตอาจจะเป็น CAT6 เพราะความเร็วของสัญญาณที่ส่งออกจากตัวกล้องมากขึ้นรวมทั้งภาพที่จะเก็บข้อมูลมีขนาดใหญ่ขึ้นจึงค่อยเลือกสายประเภทนี้ แต่อย่างไรก็ตามสายยูทีพีนั้นมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางที่ว่าจะต้องหาจุดเชื่อมต่อหรือสวิตซ์ (Switch) ที่มีระยะไม่เกิน 100 เมตรด้วย ถึงจะใช้งานกล้องได้
2.3 สวิตช์ (Switch) เป็นอุปกรณ์เน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์อีกอย่างหนึ่งที่ใช้ในการติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบเน็ตเวิร์ค เพื่อเชื่อมกล้องทั้งหมดที่มีอยู่เข้าสู่ระบบเน็ตเวิร์คได้ เครื่องบันทึกปลายทางก็จะรับสัญญาณเพื่อบันทึกข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ได้เชื่อมต่อเน็ตเวิร์คต่อไป
2.4 เครื่องบันทึกภาพ (NVR) จะเป็นเครื่องบันทึกที่ต่อผ่านระบบเน็ตเวิร์คหรือจะเรียกว่าเป็นเครื่องแม่ข่าย (Server) หลักของกล้องวงจรปิดก็ได้ ซึ่งจะต้องมีระบบปฏิบัติการในตัวเครื่อง ทั่วไปแล้วจะเป็นระบบปฏิบัติการวินโดว์ (Windows) โดยมีสายสัญญาณที่เชื่อมต่อกับหัว RJ45 และตัวเครื่องนี้ก็จะมีเบอร์ IP Network ซึ่งอยู่วงเดียวกับตัวกล้อง ซึ่งจะสามารถเก็บข้อมูลจำนวนกล้องได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับโปรแกรมบันทึกภาพที่ผู้ใช้งานได้ติดตั้งลงไปในเครื่อง อาจมีตั้งแต่ 1 จนถึงกระทั่ง 128 กล้องหรือมากกว่านั้นซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงจำนวนการซื้อ เรียกอย่างเป็นทางการว่า ไลเซ่น (Licence) ส่วนจะเก็บข้อมูลได้มากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดความจุของข้อมูลในตัวเครื่อง NVR (Harddisk) และขนาดของภาพที่เก็บยิ่งภาพขนาดใหญ่ยิ่งกินเนื้อที่แต่ทำให้เห็นข้อมูลได้ชัดเจน เช่นเดียวกับเครื่อง DVR ในส่วนของช่องต่อสัญญาณที่แสดงผลภาพนั้นเท่าที่เห็น ณ ปัจจุบันนี้จะออกได้ 2 ทางคือ VGA กับ HDMI ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานจะเลือกต่อกับจอที่เป็นหัวต่อแบบไหน หรือจะต่อดูภาพผ่านระบบเน็ตเวิร์คจากเครื่องอื่นที่เป็นเครื่องลูกข่าย (Client) ที่ได้ลงโปรแกรมแล้วหรือดูผ่านเว็บบราวเซอร์จากเครื่องได้โดยตรง ซึ่งเครื่องลูกข่ายนี้จะต้องมีบัญชีผู้ใช้งานและรหัสผ่าน(User/Password) ถึงจะเข้าดูข้อมูลกล้องต่างๆได้
2.5 จอแสดงผลภาพ ก็จะใช้เหมือนกับระบบกล้องแบบอนาล็อก คือนิยมใช้จอแบบ LCD หรือ LCD TV เพราะทั้งเรื่องสายสัญญาณที่ต่อระหว่างจอภาพกับเครื่องบันทึกภาพนั้นสามารถใช้งานร่วมกันได้ดี และคุณสมบัติของการแสดงผลและคุณภาพของเครื่องที่ดีทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้อย่างชัดเจน จอภาพยิ่งใหญ่นั้นจะยิ่งดีสำหรับกล้องแบบเน็ตเวิร์คเพราะกล้องเน็ตเวิร์คจะเก็บจำนวนกล้องได้ปริมาณที่มากกว่าระบบกล้องแบบอนาล็อก เวลาดูภาพรวมถ้ากล้องมีปริมาณมากเกินกว่า 16ช่องก็จะทำให้ภาพที่แสดงรวมนั้นดูเล็กเกินไปได้
เขียนโดย วิศวกรหนุ่ม CCTV
ผมคิดว่าผม ได้ จริงๆ มาถึง สถานที่ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ ข้อมูลที่ถูกต้อง
ตอบลบสัญญาณเตือนไฟไหม้ | กันขโมย